วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ตลาดโรงเกลือ

      ตลาดโรงเกลือ จังหวัดสระแก้ว


ภาพจาก hacksss/Shutterstock.com

          ตลาดการค้าชายแดนภาคตะวันออกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เป็นแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ที่รวมของดีของเด็ดไว้มากมาย อาทิ สินค้ามือสองคุณภาพเยี่ยม สินค้าแบรนด์เนมราคาถูกคุณภาพดีจากทั่วทุกมุมโลก เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เพชร พลอย เครื่องเงิน ปลาแห้ง ปลาย่าง ถ้วยชาม เครื่องใช้ไฟฟ้า ผ้าม่าน ฯลฯ โดยตลาดโรงเกลือแบ่งออกเป็น 5 ตลาด ได้แก่ ตลาดโรงเกลือเก่า ตลาดเดชไทย ตลาดเทศบาล 2 (ตลาดโรงเกลือใหม่) ตลาดเทศบาล 3 ( ตลาดโกลเดนเกต) และตลาดเบญจวรรณ ใครชอบโซนไหนก็เตรียมเช่ารถขับพุ่งตรงไปได้เลย รับรองได้ของถูกใจสบายกระเป๋าแน่นอน
           ที่อยู่ : บ้านคลองลึก ตำบลท่าข้าม อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00 - 17.00 น.
           เว็บไซต์ : จังหวัดสระแก้ว
http://travel.kapook.com/view104179.html   // แหล่งที่มา


ถนนคนเดินเชียงใหม่

ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เทศบาลเชียงใหม่ จะปิดถนนส่วนหนึ่งในเชียงใหม่ เพื่อให้ชาวบ้านนำสินค้าหัตถกรรมมาวาง ขายบนถนนคนเดินหากมาเยือนเชียงใหม่ในช่วงอากาศหนาว เดินเที่ยว ถนนคนเดินเชียงใหม่ ก็เพลิดเพลินไปอีก แบบหนึ่งซึ่งที่นี่ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักท่องเที่ยว ชาวไทยจากทุกภาคและชาวต่างประเทศหลากหลาย ภาษาทั้งยุโรป เอเชีย ถนนคนเดินที่เชียงใหม่มี 4แห่ง
1. ถนนคนเดินท่าแพ
อยู่บริเวณประตูเมืองท่าแพต่อไปยังถนนราชดำเนิน เป็นถนนคนเดินที่ดังและใหญ่ที่สุดมีวันอาทิตย์ตอนเย็นเปิด เฉพาะ วันอาทิตย์ เวลาประมาณ 17.00 - 22.00 น. เป็นแหล่งจำหน่ายสินค้าขนาดใหญ่ มีสินค้าให้เลือกสรร มากมายหลากหลายประเภท ทั้งสินค้าทางวัฒนธรรม เช่น สินค้าพื้นเมือง จำพวกเครื่องประดับตกแต่ง เสื้อผ้า ของที่ระลึก กระเป๋า ผ้าพันคอ โคมไฟ ฯลฯ หรือจะเป็นสินค้าแฟชั่นก็มีให้เห็นอยู่โดยทั่วไป รวมทั้งของกิน เช่น ขนมจีนน้ำเงี้ยว/น้ำยา ของ ทานเล่น โรตี ฯลฯ หากมาเยือนในช่วงอากาศหนาว ๆ เดินเที่ยวกาดกลางคืน ถนนคนเดินเชียงใหม่ก็เพลิดเพลินไปอีก แบบหนึ่ง ซึ่งที่นี่เป็นถนนคนเดินที่ใหญ่ที่สุดในเชียงใหม่และได้รับ ความสนใจอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ
2.ถนนคนเดินวัวลาย
อยู่ที่ถนนวัวลาย ใกล้กับประตูเมืองเชียงใหม่ เปิดเฉพาะวันเสาร์ เวลาประมาณ 17.00 - 22.00 น. พ่อค้าแม่ค้า เป็นคน พื้นเมืองที่อาศัยอยู่ในบริเวณถนนวัวลายเป็นส่วนใหญ่ จึงมีขนาดเล็กกว่าถนนคนเดินท่าแพ เป็นที่ตั้งของ หมู่บ้านทำ เครื่องเงิน ซึ่งทั้งผลิตและจำหน่ายสินค้าจำพวกเครื่องเงิน นอกจากนี้ยังมีสินค้า พื้นเมืองมากมายให้ เลือกสรร
ถนนคนเดินวัวลายถนนคนเดินวัวลาย
ถนนคนเดินวัวลายถนนคนเดินวัวลาย
ถนนคนเดินวัวลายถนนคนเดินวัวลาย
ถนนคนเดินวัวลายถนนคนเดินวัวลาย
ถนนคนเดินวัวลายถนนคนเดินวัวลาย
3.กาดต้อนกอง
วันเสาร์ช่วงเช้า ณ ชุมชนสันทรายต้นกอก ตำบลฟ้าฮ่าม เลือกชมและเลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง อาหารพื้นเมือง เลือกซื้อผักปลอดสารพิษ ไม้ดอกไม้ประดับ ชมสาธิตวิธีการเลี้ยงนกกระทา และการแสดงทางวัฒนธรรมของ ชุมชน โดยเยาวชนท้องถิ่น โดยกลุ่มเกษตรกร เช่น ปลูกผัก กลุ่มหัตถกรรมพื้นบ้าน เช่น กลองโบราณและ การล่องเรือชมวิถีชีวิตริมแม่น้ำปิง
4.ถนนคนเดินสายหัตถกรรมสันกำแพง
เลือกชม เลือกซื้อสินค้าหัตถกรรมของกินของฝาก ของที่ระลึก และรับชมการแสดงดนตรีโบราณของสันกำแพง ทุกวันเสาร์เวลา 15.00-22.00

http://www.paiduaykan.com/76_province/north/chiangmai/walkingstreet.html  /// แหล่งที่มา

 เยาวราช หรือไชน่าทาวน์เมืองไทย ถือเป็นแหล่งของกินสุดฮิตของวัยรุ่นและคนทำงานที่ชอบซอกแซกหาของกินอร่อย ๆ ยามค่ำคืน ซึ่งร้านอาหารจำนวนมากในย่านนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ ทั้งของคาวของหวานเรียกได้ว่าถูกใจและถูกปากยิ่งนัก กระปุกดอทคอมก็ได้ซอกแซกไปเสาะหาของกินในย่านเยาวราชพร้อมแนะนำร้านเด็ด ๆ มาแนะนำกันด้วย จะมีร้านไหนและเมนูอะไรน่าสนใจบ้างนั้น ตามมาเลยค่ะ         

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

           เริ่มกันที่ ร้านลอดช่องสิงคโปร์ สามแยกเจริญกรุง เจ้าเก่าซึ่งอยู่ใกล้กับสามแยกเจริญกรุง ซึ่งความพิเศษของลอดช่องร้านนี้อยู่ที่ความหนึบหนับของตัวลอดช่องบวกกับน้ำกะทิหวานกำลังดี แถมยังมีกลิ่นหอม ๆ ของขนุนอีกด้วย ร้อน ๆ แบบนี้รับรองว่ากินแล้วชื่นใจชัวร์ ซึ่งร้านลอดช่องสิงคโปร์สามแยกเจริญกรุงจะเปิดตั้งแต่เวลา 10.30 น. ไปจนถึงราว ๆ สามทุ่ม และจะปิดทุกวันพฤหัสบดีค่ะ

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

          เมื่อออกจากซอกซอยของร้านลอดช่องสิงคโปร์แล้ว เรามาตั้งต้นกันที่สี่แยกเฉลิมบุรีแล้วมุ่งหน้าเข้าสู่ถนนเยาวราช ซึ่งทั้งสองฟากฝั่งก็มีร้านรวงของกินมากมายเลย ซึ่งเราเริ่มจากร้านของกินฝั่งขวามือก่อน เมื่อเดินไปจนสุดแล้วค่อยข้ามมาอีกฝั่งหนึ่ง 

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

          เริ่มจากร้านที่อยู่ต้น ๆ ถนนเยาวราช คือ ร้านปาท่องโก๋ เจ้าเด็ดเจ้าดังของย่านนี้ที่มีสูตรเด็ดอยู่ที่แป้งทำปาท่องโก๋บวกกับสังขยาใบเตยหอม ๆ ซึ่งขายเป็นชุด โดยชุดเล็กราคา 40 บาท (ปาท่องโก๋ 5 ตัว + สังขยา) และชุดใหญ่ 60 บาท (ปาท่องโก๋ 10 ตัว + สังขยา)

ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

เลาะเลียบริมเจ้าพระยา ชิมของอร่อยท่าพระจันทร์-ท่าช้าง
          ถัดมาเป็นร้าน จิตร ลูกชิ้นปลา ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาทำเอง และ ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้ที่อยู่ใกล้ ๆ กัน

  ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

          ถัดมาเป็น ร้านกุยช่ายเจ๊ต้อย และ ร้านก๋วยเตี๋ยวหลอด ตั้งอยู่ติด ๆ กัน

ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

          เดินต่อมาเรื่อย ๆ จะไปซอยถนนผดุงด้าว อย่าลืมแวะเวียนเข้ามา เพราะซอยนี้ก็มีของกินเพียบเช่นกัน ซึ่งตรงปากซอยทั้งสองฝั่งจะมีร้านอาหารทะเลชื่อว่า T&K ซีฟู๊ด และ เล็ก & รัตน์ ซีฟู๊ดสำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารทะเลก็แวะมาเลยค่ะ

ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

         ต่อมาเป็นร้านหูฉลาม ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าธนาคารกรุงศรีฯ พร้อมอีกสารพัดเมนู ทั้งอาหารตามสั่ง, ปูผัดผงกะหรี่, กุ้งอบวุ้นเส้น ฯลฯ

ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

         เดินตรงมาอีกนิดก็จะมีซอยด้านขวามือ นั่นคือ ถนนแปลงนาม ซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านของกินมากมายตั้งแต่ต้นซอยเลย

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

          ร้านนี้ตั้งอยู่ปากซอยเลยค่ะ ร้านเจ๊แป๊ว ขายมะม่วงน้ำปลาหวานและข้าวเหนียว+มะม่วงสุก ใครรู้ตัวว่าชอบกินมะม่วงเป็นชีวิตจิตใจหรือเป็นผลไม้สุดโปรดก็ห้ามพลาดเลยค่ะ

  ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

  ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย
          ต่อมาเป็น ร้านเกาเหลาเลือดหมูนายเว้ง น่ากินมากกกก

  ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

           ถัดมาเป็น ร้านเกี๊ยวซ่า ทอดกันสด ๆ ร้อน ๆ กรอบนอกนุ่มใน

  ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

  ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

            ใกล้กันเป็น ร้านหมูสะเต๊ะแปลงนาม ไม้ละ 5 บาท เสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด คนมารอคิวแน่นร้านเลยค่ะ

  ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

        และร้านสุขภาพกับเมนูสารพัดเห็ดย่าง
  ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

          และร้านสุดฮอตคิวยาวเยียดเลย คือ ครัวพรละมัย กับเมนูกระทะร้อนที่ได้กินแล้วจะติดใจ

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

         แอบมาส่องพ่อค้า อิอิ

 ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

          เอาใจคนชอบกินเส้นด้วย ร้านบะหมี่มังกรทอง ชามละ 40 บาท คุณภาพคุ้มราคาจริง ๆ

  ตะลุยเยาวราชตอนค่ำ ตระเวณหาของกินร้านอร่อย

        ตรงมาอีกนิดก็จะถึงเยาวราชซอย 6 ซึ่งถือว่าเกือบจะสุดซอยของร้านของกินในฝั่งขวามือแล้ว ดังนั้นต้องข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่งซึ่งจะตรงข้ามกับเยาวราชซอย 11 ก่อนจะเข้าไปสอดส่องในซอยเดินเลยไปท้าย ๆ ก็จะพบร้านของกินหลายร้านเลยค่ะ อย่างร้านนี้ เต้าทึงเจ้เหว่า (หน้าตลาดเก่า)



http://travel.kapook.com/view116439.html ///  แหล่งที่มา


โบ๊เบ๊

ฉันได้ยินสาวๆในออฟฟิศเม้าท์มอยกันถึงเรื่องละครโบ๊เบ๊ ที่ออกอากาศทางช่อง 7 ตามประสาคอละครกันอย่างเมามัน ฉันจึงกลับไปดูบ้างตามที่โอกาสอำนวย เลยถือโอกาสนี้ไปเดินลุยกรุง “ย่านโบ๊เบ๊” นี้ซะเลย มาดูว่าปัจจุบันย่านโบ๊เบ๊แห่งนี้เป็นอย่างไร
เที่ยว“โบ๊เบ๊” ต้องมนต์เสน่ห์ชุมชนเก่า
เสื้อผ้าหลายแบบ
        สำหรับความเป็นมาของโบ๊เบ๊นั้น ผศ.ดร.บุญยง ชื่นสุวิมล ซึ่งทำงานวิจัยเรื่องโบ๊เบ๊ ความเปลี่ยนแปลงของระบบครอบครัวชุมชนชายไทยเชื้อสายจีนกับประวัติศาสตร์ ได้กล่าวถึงประวัติศาสตร์ของโบ๊เบ๊ไว้ว่า ชื่อชุมชน“โบ๊เบ๊” เป็นชื่อที่เรียกเพี้ยนมาจากคำว่า “บ๊งเบ้ง” ชื้อนี้มีที่มาจากอดีตขณะที่ยังเป็นตลาดขายเสื้อผ้าเก่าอยู่ ผู้คนที่มาค้าขายมักจะส่งเสียงดังหนวกหูจนคนแถบนี้เรียกว่า “ตลาดบ๊งเบ้ง”
      
       ตลาดโบ๊เบ๊เริ่มก่อตัวเป็นชุมชนเมื่อประมาณปี พ.ศ.2470 แต่เดิมชาวโบ๊เบ๊ประกอบอาชีพหลากหลาย มีตั้งแต่อาชีพย้อมผ้าที่อาศัยน้ำจากคลองผดุงกรุงเกษม มีการปลูกเพิงขายน้ำชา โอเลี้ยง มะพร้าว เป็นต้น อันเป็นช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง
เที่ยว“โบ๊เบ๊” ต้องมนต์เสน่ห์ชุมชนเก่า
โบ๊เบ๊แหล่งเสื้อผ้าราคาถูกที่สุดในกรุง
        ในระยะนั้นมีพ่อค้าแม่ค้าจำนวนหนึ่งตั้งแผงขายของกันอยู่ในบริเวณตรอกขี้เถ้า (ถนนดำรงรักษ์) โดยนำสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคสารพัดชนิดมาวางขายกันแบบแบกะดิน เมื่อสงครามอุบัติขึ้นมีเครื่องบินมาทิ้งระเบิดในกรุงเทพฯ กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในละแวกนี้จึงได้ย้ายทำเลมาอาศัยผูกเพิงวางของขายกันในบริเวณลานดินหน้าวัดบรมนิวาสฯ ด้านริมคลองแสนแสบ จนทำให้ลานวัดเกือบจะกลายสภาพเป็นตลาดถาวร
เที่ยว“โบ๊เบ๊” ต้องมนต์เสน่ห์ชุมชนเก่า
ร้านค้าย่านโบ๊เบ๊ทาวเวอร์
        ต่อมาในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ประมาณ พ.ศ. 2484-2488 เป็นช่วงที่สินค้าอุปโภคบริโภคขาดแคลน เนื่องจากภาวะสงคราม โดยเฉพาะเสื้อผ้าเครื่องนุ่มห่ม จึงมีผู้นำเสื้อผ้าเก่าที่ใช้แล้วยังอยู่ในสภาพดีมาจำหน่าย หรือแลกของใช้หรืออาหารอื่น เช่น ไข่ น้ำตาล การค้าขายอยู่ในลักษณะที่วางขายกับพื้นดิน ยังไม่มีการตั้งร้านค้าที่ถาวร ที่ชุมชนจึงอยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรมคล้ายแหล่งชุมชนแออัด
เที่ยว“โบ๊เบ๊” ต้องมนต์เสน่ห์ชุมชนเก่า
ตลาดโบ๊เบ๊คึกคักทั้งวันทั้งคืน
        เมื่อสงครามสงบ ตลาดแบกะดินซึ่งอาศัยวางแผงขายของในบริเวณลานวัดบรมนิวาสฯ ก็ได้ยกเลิกไปตั้งแต่บัดนั้น และได้จัดให้พ่อค้าแม่ค้าย้ายข้ามฟากทางรถไฟไปตั้งในบริเวณที่ดินของวัด ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดโบ๊เบ๊ในปัจจุบัน ตลาดโบ๊เบ๊จึงถือกำเนิด ณ ที่ตรงจุดนั้นนั่นเอง การค้าขายได้เปลี่ยนจากวางขายกันบนพื้นดินมาตั้งเป็นร้านค้า จากชุมชนขนาดเล็กที่มีร้านค้าเพียงไม่กี่ร้านอยู่อย่างกระจัดกระจายและไม่เป็นระเบียบ ก็กลายเป็นขายในห้องแถวสองชั้นและชั้นเดียวเรียงรายในตรอก ผู้คนที่มาค้าขายมีทั้งชายไทยและชาวจีน มีตรอกเล็กๆซึ่งใช้เป็นทางเดินเรียกว่า ตรอกธรรมา รวมทั้งมีโรงซ่อมเรือ โรงสี โรงปูน โรงทำกระทะ โรงเลื่อย โรงปูน ไปจนถึงซ่องโสเภณี
เที่ยว“โบ๊เบ๊” ต้องมนต์เสน่ห์ชุมชนเก่า
ศาลเจ้าที่เคารพของเหล่าพ่อค้าแม่ค้า
        ต่อมาชุมชนได้ขยายตัวออกไปข้ามคลองผดุงกรุงเกษม และถนนกรุงเกษมไปฝั่งตรงข้าม คือ ถนนกษัตริย์ศึกจนถึงสะพานเจริญราษฎ์ และเมื่อตลาดเจริญเติบโตมากขึ้นก็ได้ขยายต่อไปยังบริเวณที่เรียกว่าโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ ซึ่งแต่เดิมเรียกว่าตลาดผลไม้หลังตลาดมหานาค
เที่ยว“โบ๊เบ๊” ต้องมนต์เสน่ห์ชุมชนเก่า
มีสินค้าหลากหลายจำหน่าย
        ปัจจุบันสถานที่ตั้งอย่างเป็นทางการโบ๊เบ๊คือ ตรอกธรรมา บริเวณดั้งเดิมของโบ๊เบ๊นั้นคือบริเวณที่เรียกกันในปัจจุบันว่า “ตลาดเก่า” ซึ่งเป็นที่ดินผืนเดียวกับวัด จนมีการสร้างรางรถไฟพาดผ่านระหว่างชุมชนกับวัดในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยตลาดเก่าเป็นตลาดที่ขายผ้าเก่าที่รับมาจากพ่อค้าคนกลางชาวไหหลำ ต่อมาก็จำหน่ายพวกเสื้อผ้าเด็ก คนแก่ ผ้าถุง กางเกงยีนส์ กางเกงขาก๊วย เสื้อผ้านักเรียน จนต่อมาโบ๊เบ๊ได้กลายมาเป็นตลาดจำหน่ายเสื้อผ้าขายส่งแหล่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ และเป็นแหล่งป้อนสินค้าให้กับร้านขายเสื้อผ้าตามต่างจังหวัดด้วย
เที่ยว“โบ๊เบ๊” ต้องมนต์เสน่ห์ชุมชนเก่า
หัวสะพานเจริญราษฎ์กับบรรยากาศโบ๊เบ๊
        ในวันนี้ชุมชนโบ๊เบ๊ถือเป็นชุมชนการค้าสำคัญแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มีตึกแถวมากกว่า 500 คูหา มีแผงประมาณ 1,000 แผง มีแผงเปิดเฉพาะช่วงเช้าอีกประมาณ 100 แผง มีที่อยู่อาศัยเป็นตึกแถวทอดยาวไปจรดทางรถไฟ ด้านตรงข้ามกับคลองผดุงกรุงเกษมเป็นตึกแถวเช่นเดียวกัน ทอดยาวไปตามถนนไปจรดกับอาคารโบ๊เบ๊ทาวเวอร์ ภายในโบ๊เบ๊ทาวเวอร์แบ่งเป็นห้องให้ซื้อหรือเช่าเพื่อขายสินค้าประเภทเสื้อผ้าดังที่เห็นในปัจจุบัน
เที่ยว“โบ๊เบ๊” ต้องมนต์เสน่ห์ชุมชนเก่า
ทางรถไฟตัดผ่านวัดบรมนิวาสกับตลาด
        ในวันที่ฉันได้ไปเดินเที่ยวโบ๊เบ๊ มีเสื้อผ้าสำเร็จรูปมากมายหลากหลาย ส่วนมากเป็นการขายยกแพ็คยกโหล ซึ่งจะได้ราคาถูกมาก คุ้มค่าจริงๆ แต่ก็มีบางร้านที่ขาย 3 ตัว หรือตัวเดียว ให้ได้แยกซื้อกันด้วย แต่ใครมาช้อปตอนกลางวันก็ต้องทำใจกันสักนิด เพราะด้วยอากาศที่ร้อนอบอ้าว บวกกับความแน่นขนัดของร้านค้า ทำเอาเหงื่อไหลไคลย้อยกันไปตามๆกัน
เที่ยว“โบ๊เบ๊” ต้องมนต์เสน่ห์ชุมชนเก่า
คลองแสนแสบอีกหนึ่งการเดินทางมาโบ๊เบ๊
        ถ้าใครอยากช้อปแบบเย็นๆหน่อยละก็ เข้าไปเดินเลือกสินค้าในห้องแอร์กันได้ที่โบ๊เบ๊ทาวเวอร์ หรือจะมาในช่วงตลาดเช้าที่จะมีตั้งแต่ประมาณ 3 ทุ่ม ไปจนถึง 6 โมงเช้าเลยทีเดียว อย่าคิดว่าจะคนน้อยโหรงเหรงเชียว เพราะจะมีร้านค้าส่วนใหญ่จะมารับของไปขายต่อในช่วงนี้ ทำให้คนเยอะสินค้าแยะ จนถนนเหลือให้รถวิ่งได้เพียงเลนเดียวเท่านั้น
เที่ยว“โบ๊เบ๊” ต้องมนต์เสน่ห์ชุมชนเก่า
บ้านเรือนฝั่งตรงข้ามคลองผดุงฯย่านโบ๊เบ๊
        และที่ตั้งอยู่ติดๆ กับตลาดโบ๊เบ๊ ก็คือตลาดมหานาค ที่ฉันเคยผ่านไปผ่านมาหลายครั้งและเห็นว่ามีผลไม้นานาชนิดวางขาย โดยเฉพาะผลไม้ตามฤดูกาลจะมีเยอะมากเป็นพิเศษจนได้ชื่อว่าเป็นตลาดผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯเลยก็ว่าได้ ที่ตลาดแห่งนี้มีทั้งขายปลีกและขายส่ง ดังนั้นนอกจากจะได้เลือกซื้อผลไม้หลายชนิดแล้ว ยังได้ในราคาย่อมเยาอีกด้วย
เที่ยว“โบ๊เบ๊” ต้องมนต์เสน่ห์ชุมชนเก่า
มีผลไม้ตามฤดูกาลให้เลือกซื้อ
        ฉันเองก็ได้เสื้อผ้าติดไม้ติดมือกลับบ้าน ทั้งของตัวเองและของฝากหลานๆ แถมยังได้เลือกซื้อผลไม้สดๆหลายชนิดกลับไปตุนที่บ้าน ให้ได้สุขภาพดีกันไปเลย
เที่ยว“โบ๊เบ๊” ต้องมนต์เสน่ห์ชุมชนเก่า
ตลาดผลไม้มหานาค
        



http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9540000072484   ///  แหล่งที่มา